จะเห็นได้ว่าแรงและโมเมนต์นี้ทำให้ชิ้นงานเกิดการเคลื่อนที่และเสียรูปไปพร้อมๆกัน การเคลื่อนที่นั้นก็สามารถทำนายได้ตามกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน แต่ในเรื่องของการเสียรูปนั้นก็หาได้จากการหาค่าความเค้นและความเครียดที่เกิดขึ้น
แรงที่กระทำนั้นจะมีแรงที่ตั้งฉากกับผิวของชิ้นงานและแรงที่ขนานกับผิวชิ้นงาน รวมทั้งโมเมนต์ที่ทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของผิว จากแรงต่างๆนี้สังเกตได้ว่าการเสียรูปของชิ้นงานจะมีด้วยกันสองรูปแบบใหญ่ๆคือ การเสียรูปแบบการยุบหรือหดตัว และการเสียรูปแบบบิดเบี้ยว
การเสียรูปแบบยุบหรือหดตัวนั้นจะเกิดจากแรงที่กระทำตั้งฉากกับผิว เปรียบได้กับชิ้นงานที่อยู่ใต้นำ้ลึกที่ต้องรับแรงดันกระทำทุกทางจนชิ้นงานเกิดการหดตัวเล็กลงไป การเสียรูปแบบนี้จะทำให้ปริมาตรของชิ้นงานนั้นลดลงส่วนการเสียรูปแบบบิดเบี้ยวนั้นเกิดการแรงกระทำที่ขนานไปกับผิวของชิ้นงานจนชิ้นงานเกิดการเบี้ยว ไปตามทิศทางของแรงที่กระทำ การเสียรูปแบบนี้ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของปริมาตร
ตามที่กล่าวมาข้างต้นโดยคอนเซปต์เดียวกันสามารถพูดได้ว่าความเค้นและความเครียดนั้นมีได้สองแบบหลักๆตามการเสียรูปของชิ้นงานคือแบบตั้งฉาก(Normal) และแบบเฉือน(Shear) ซึ่งทำให้เกิดการเสียรูปแแบบหดตัวและการบิดเบี้ยวตามลำดับ